จุดเริ่มต้นของ Panthera Group ย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 1990 โดยเริ่มจาก Hospitality Venture Group ของ Paul Hayward ซึ่งได้รวมกิจการกับ Eclipse Group ที่เป็นเจ้าของผับและร้านอาหารหลายแห่งทั่วประเทศไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2000
ต่อมาในปี 2005 Eclipse Group ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Panthera Group ด้วยความร่วมมือของ Paul Hayward และ Michael Doherty องค์ความรู้ด้านธุรกิจบริการของทั้งคู่เป็นรากฐานที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วในวงการสถานบันเทิงภายในเวลาเพียงหนึ่งทศวรรษ
Panthera Group เริ่มขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปี 2006โดยเปิดร้านอาหารแห่งแรกในภูเก็ต และในปี 2007 ก็มีสาขาในกรุงเทพฯ หลายแห่ง ตามมาด้วยการเปิดร้านอาหารเพิ่มเติมในเกาะสมุยและพัทยาในปี 2008
ในปี 2009 Panthera Group ได้เข้าซื้อกิจการ Qbar สถานบันเทิงอันโด่งดังในกรุงเทพฯ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ธุรกิจสถานบันเทิงยามค่ำคืนอย่างเต็มตัว และ Qbar ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของวงการคลับในกรุงเทพฯ อย่างรวดเร็ว ในช่วงปี 2012-2013 Panthera Group ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัว Insanity Nightclub และ Levels Bangkok
ชื่อเสียงของ Panthera Group ในฐานะผู้ประกอบการไนท์คลับชั้นนำเริ่มแข็งแกร่งขึ้นในปี 2015 ด้วยการเปิดตัว Sugar Club Bangkok นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังได้ขยายธุรกิจเข้าสู่วงการสุขภาพ ด้วยการเปิดสถานพยาบาลแห่งแรกในย่านทองหล่อ พร้อมเข้าซื้อกิจการร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังอย่าง Rossano’s
ในปี 2018 Panthera Group ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยได้เปิดตัว Sugar และ Seduction ไนท์คลับในภูเก็ต และเข้าซื้อกิจการที่ได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น Whisgars Cigar Lounge, Craft, Slanted Taco, Birds Rotisserie และกิจการที่จะกลายมาเป็น Sun Legal ในภายหลัง
ในปี 2019 Skylight Phuket และ Molihua Media Group ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Panthera Group ที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 2021-2022 เมื่อ Panthera Group ร่วมมือกับ Mahakan Biotech Ltd. ซึ่งแสดงถึงการเข้าสู่ตลาดกัญชาทางการแพทย์ที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังได้พัฒนาธุรกิจสถานบันเทิงด้วยการเปิดตัว Juicy Nightclub ในกรุงเทพฯ และดำเนินการปรับปรุงสำนักงานในกรุงเทพฯ อย่างครอบคลุมเพื่อรองรับการลงทุนและบริการการจัดการธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงปี 2022 ถึง 2025 Panthera Group ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมกัญชาอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับ Og Canna Company นำไปสู่การเปิดร้านค้าปลีก 12 แห่ง การจัดตั้งคลินิกทางเลือก การเปิดธุรกิจจัดจำหน่าย และการพัฒนาฟาร์มออร์แกนิกและศูนย์แปรรูป นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุง OG House ในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับกัญชาอีกด้วย